แม้ว่าการใช้โทรศัพท์มือถือจะเพิ่มมากขึ้นและมีแนวโน้มการบริโภคหลายหน้าจอที่เสริมกัน แต่ผู้บริโภคในสหรัฐฯ กลับชอบค้นหาและซื้อหนังสือเด็กแบบรูปเล่มมากกว่า—และซื้อด้วยตนเอง
รายงาน US Children's Book Landscape Quarterly ฉบับล่าสุดของนีลเส็น ระบุว่าหนังสือเด็กที่ซื้อในไตรมาสที่สี่ของปี 2014 เป็นอีบุ๊กเพียง 10% เทียบกับหนังสือทั้งหมดที่มีถึง 19% แม้ว่าช่องว่างระหว่างการซื้อหนังสือแบบพิมพ์และอีบุ๊กจะค่อยๆ ลดลง แต่หนังสือแบบพิมพ์ยังคงครองตลาดอยู่ และวิธีการค้นพบและซื้อหนังสือเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสัมผัสส่วนบุคคลอย่างแท้จริง
ในวงการหนังสือเด็ก ผู้บริโภคค้นพบหนังสือมากที่สุดจากการจัดวางในร้าน โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้บริโภค “ค้นพบ” หนังสือเด็ก 71% จากการเห็นหนังสือเหล่านั้นบนชั้นวางหรือโต๊ะจัดแสดงในร้าน เนื่องจากแรงจูงใจในการค้นพบและการซื้อส่วนใหญ่มาจากคำขอของเด็กๆ โดยตรง จึงค่อนข้างน่าแปลกใจที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน ซึ่งเปรียบเสมือน “ด่านทดสอบ” ของร้านค้าปลีก กลับมีผลกระทบต่อการรับรู้หนังสือเด็กเพียงเล็กน้อย คิดเป็นเพียง 1% ของการรับรู้หนังสือเด็กทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้ซื้อหนังสือเด็กยังมีแนวโน้มที่จะค้นพบหนังสือใหม่ในงานหนังสือมากกว่าผู้ซื้อหนังสือทั่วไปถึง 167% พวกเขายังค้นพบหนังสือมากขึ้นผ่านคำแนะนำจากบรรณารักษ์หรือครู

เมื่อพูดถึงการซื้อ ราคาเป็นปัจจัยสำคัญ ที่สุด แต่ไม่ใช่แค่เบนจามินส์เท่านั้น ผู้ซื้อหนังสือเด็กมีแนวโน้มที่จะซื้อหนังสือเมื่อเด็กๆ ขอมากกว่าถึง 125% และมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อโดยดูจากปกหนังสือมากกว่าถึง 44% เมื่อเทียบกับผู้ซื้อหนังสือทั่วไป ผู้ซื้อหนังสือเด็กมีแนวโน้มที่จะซื้อหนังสือเด็กพร้อมกับสินค้าอื่นมากกว่า แล้วอะไรคือสิ่งที่ควรซื้อควบคู่ไปกับหนังสือเด็ก? หนังสือเด็กอีกเล่มหนึ่ง
สิ่งนี้มีความหมายอย่างไรต่อสำนักพิมพ์และนักเขียน? การจัดวางสินค้าในร้านแบบเดิมๆ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เช่นเดียวกับโอกาสในการจัดงานมหกรรมหนังสือและการเชื่อมต่อกับบรรณารักษ์และครู สำนักพิมพ์หนังสือจำเป็นต้องลงทุนในด้านเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคนิยมซื้อหนังสือหลายเล่ม สำนักพิมพ์จึงควรพิจารณาโอกาสในการรวมเล่มหนังสือเข้าด้วยกัน ท้ายที่สุด แม้ว่าช่องว่างระหว่างยอดขายอีบุ๊กและยอดขายแบบพิมพ์จะแคบลง แต่โดยรวมแล้วแนวโน้มยอดขายบ่งชี้ถึงการเติบโตที่ชะลอตัวลง ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าตลาดอีบุ๊กสำหรับเด็กเติบโตเต็มที่แล้ว
หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม โปรดดาวน์โหลดรายงาน US Children's Book Landscape ล่าสุดของ Nielsen
นอกจากนี้ งาน Children's Book Summit ประจำปี 2015 ของ Nielsen ในวันที่ 16 กันยายน จะเจาะลึกตลาดหนังสือเด็กมากขึ้น โดยจะเจาะลึกว่าลูกค้าของคุณเป็นใคร พวกเขาชอบอะไร และจะมีส่วนร่วมกับพวกเขาได้อย่างไร