ในโลกที่นักการตลาดต้องสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านช่องทางและแพลตฟอร์มที่หลากหลายมากขึ้น การสร้างความสัมพันธ์ที่จริงใจและเป็นส่วนตัวจึงเป็นเรื่องท้าทาย แม้ว่าการสร้างแบรนด์จะยังคงเป็นเป้าหมายหลักของนักการตลาดทั่วโลก แต่ช่องทางการเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากอาจไม่ตอบโจทย์เสมอไป
ด้วยการมุ่งเน้นที่การสร้างแบรนด์ นักการตลาดจึงมองหาวิธีที่จะทำให้แบรนด์อยู่ในใจผู้ซื้อเป้าหมายอยู่เสมอ หลายคนจึงหันมาใช้โซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์เพื่อสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัว (และสร้างผลกำไร) กับผู้บริโภคมากขึ้น นักการตลาดทั่วโลกวางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายบนโซเชียลมีเดียขึ้น 53% ในปีหน้า ซึ่งมากกว่าช่องทางอื่นๆ และโซเชียลมีเดียยังคงเป็นช่องทางที่นักการตลาดทั่วโลกสามารถสร้างรายได้ได้มากที่สุด โดย 64% ของนักการตลาดทั่วโลกที่สำรวจใน รายงานการตลาดประจำ ปีนี้ ระบุว่าโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางแบบเสียเงินที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เห็นได้ชัดว่าทำไมนักการตลาดจึงทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับโซเชียลมีเดียและการตลาดแบบอินฟลูเอน เซอร์ นีลเส็น สการ์โบโรห์ พบว่าชาวอเมริกัน 42% ขอคำแนะนำจากผู้อื่นเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ และพวกเขาต้องการคำแนะนำนั้นจากแหล่งข้อมูลที่เข้าถึงได้ และเมื่อพูดถึงการสร้างความเชื่อมโยง อินฟลูเอนเซอร์สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้มากกว่าแหล่งข้อมูลอื่นๆ จากการศึกษา Nielsen Trust in Advertising ประจำปี 2021 พบว่าผู้บริโภค 71% เชื่อถือโฆษณา ความคิดเห็น และการจัดวางสินค้าจากอินฟลูเอนเซอร์
ที่น่าสนใจคือ การโปรโมตโดยอินฟลูเอนเซอร์ไม่ได้เริ่มต้นจากแบรนด์เสมอไป อันที่จริง อินฟลูเอนเซอร์มักเป็นแรงบันดาลใจให้กับแคมเปญของแบรนด์ใหญ่ๆ ยกตัวอย่างเช่น วิดีโอของอินฟลูเอนเซอร์ Barbara Kristoffersen ที่นำเสนอเสื้อฮู้ด Gap สีที่บริษัทไม่ได้ผลิตมาตั้งแต่ต้นยุค 2000 ทำให้แฮชแท็ก #brownhoodie กลายเป็นไวรัล สร้างอัตราการมีส่วนร่วมโดยรวมสูงถึง 188.35% ขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้เกิดการหลั่งไหลของเสื้อฮู้ดที่เลิกผลิตแล้วบนเว็บไซต์ขายต่อในราคาสูงถึง 300 ดอลลาร์
Gap รีบฉวยโอกาสจากกระแสตอบรับแบบออร์แกนิกที่แบรนด์ได้รับ จึงได้ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์คนอื่นๆ เพื่อสร้างแคมเปญ #gaphoodie ซึ่งมียอดวิวมากกว่า 6.5 ล้านครั้ง นอกจากนี้ แบรนด์ยังได้นำเฉดสีน้ำตาลเดิมที่เคยใช้กลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจนต้องสั่งผลิตเพิ่มอย่างรวดเร็ว
และการมีส่วนร่วมทั้งหมดนี้นำไปสู่การรับรู้ ความสนใจ และการจดจำแบรนด์ บริการ Brand Impact ของ Nielsen ได้วัดประสิทธิภาพของโฆษณาอินฟลูเอนเซอร์ในแคมเปญเกือบ 200 แคมเปญ ตามมาตรฐานไตรมาสแรกของปี 2565 จากการวิจัยนี้ ผู้ชมโฆษณาอินฟลูเอนเซอร์โดยเฉลี่ย 80% จำได้ว่าเห็นแบรนด์ปรากฏในโฆษณา นอกจากนี้ โฆษณาอินฟลูเอนเซอร์ยังช่วยเพิ่มทั้งความสนใจในแบรนด์และความตั้งใจซื้อได้ถึง 9 จุด เมื่อเทียบกับผู้บริโภคที่ไม่เห็นโฆษณาอินฟลูเอนเซอร์
ด้วยการรับรู้ถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เข้าถึงได้ แบรนด์รองเท้า Aldo จึงได้ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกับบุคลิกของแบรนด์ เพื่อโปรโมตแคมเปญ #StepIntoLove บนโซเชียลมีเดีย แคมเปญนี้ส่งเสริมให้ผู้ชมสร้างและแชร์วิดีโอที่พวกเขาเต้นไปพร้อมกับแฮชแท็กของแคมเปญเพื่อชิงรางวัลมูลค่า 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แคมเปญ TikTok มียอดวิวมากกว่า 5 พันล้านครั้ง และเพิ่มการรับรู้แบรนด์ของ Aldo ขึ้น 2.5% ตาม ข้อมูลจาก Nielsen InfluenceScope
อินฟลูเอนเซอร์สามารถเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการเพิ่มการรับรู้แบรนด์สำหรับนักการตลาดที่สามารถสร้างการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างบุคลิก เนื้อหา และการมีส่วนร่วม แบรนด์ที่สอดคล้องกับอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช่สามารถกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับผู้บริโภค และเป็นแบรนด์ที่พวกเขาจดจำได้เมื่อต้องการซื้อสินค้า
หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม โปรดดาวน์โหลด การสร้างการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น: การใช้ผู้มีอิทธิพลเพื่อขยายแบรนด์ของคุณ



